Table of Contents

ยาอายุวัฒนะ

ยาอายุวัฒนะ


 

ตำรับยาอายุวัฒนะ

 

นี่คือการรวบรวมตำรับยาอายุวัฒนะจากแหล่งต่าง ๆ ทั้งตำรายากลางบ้าน, ตำรายาสมุนไพรไทยพระครูวิทิตวรเวช (ส.เปลี่ยนศรี), ตำรายาพิเศษจากเมืองพิษณุโลก, ตำรับยาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ และตำรับยาของหลวงอินทรอาญา:

ข้อควรระวัง: ตำรับยาเหล่านี้เป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านที่สืบทอดกันมา ซึ่งหลายตำรับระบุสรรพคุณที่ครอบคลุมและอาจดูเกินจริงในมุมมองทางการแพทย์แผนปัจจุบัน การใช้สมุนไพร โดยเฉพาะส่วนประกอบที่อาจมีฤทธิ์แรง ควรทำด้วยความระมัดระวังและอยู่ภายใต้คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์แผนไทย การรับประทานยาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานโดยไม่มีการปรึกษา อาจส่งผลกระทบต่อร่างกายได้

 

ตำรับที่ 1: บอระเพ็ด, กานพลู, มะขามเปียก, ใบมะขามแขก, เกลือไทย (ตำรายากลางบ้าน)

 

  • ส่วนประกอบ: บอระเพ็ด 7 ถ้วย, กานพลูเท่าอายุ, มะขามเปียกสด 5 ถ้วย, ใบมะขามแขก 1 ถ้วย, เกลือไทย 3 ถ้วย
  • วิธีปรุงยา: นำส่วนประกอบทั้งหมดมาบดรวมกันให้เป็นผง
  • วิธีรับประทาน: นำผงยามาละลายในน้ำร้อน รับประทานวันละ 2 เวลา (เช้า-เย็น) ครั้งละ 1 ช้อนชา กินเป็นประจำทำให้ร่างกายแข็งแรง ปราศจากโรคภัยเบียดเบียน

 

ตำรับที่ 2: ยาดำ, มหาหิงคุ์, ลูกจันทน์, การบูร, พริกไทยเม็ด (ตำรายากลางบ้าน)

 

  • ส่วนประกอบ: ยาดำ 2 ตำลึง, มหาหิงคุ์ 2 ตำลึง, ลูกจันทน์ 2 ตำลึง, การบูร 2 ตำลึง, พริกไทยเม็ด 2 ตำลึง
  • วิธีปรุงยา: นำส่วนประกอบทั้งหมดมาบดรวมกันให้ละเอียด แล้วผสมกับน้ำมะกรูด ปั้นเป็นเม็ดขนาดเท่าเมล็ดข้าวโพด จากนั้นนำไปตากแดดตากน้ำค้าง 7 คืน 7 วัน
  • วิธีรับประทาน: รับประทานก่อนนอน 3-5 เม็ด
  • ข้อแนะนำเพิ่มเติม: เมื่อกินยาแล้วถูกกับโรค (อาการดีขึ้น) ให้ใส่บาตรพระ 4 รูป พร้อมทั้งอุทิศส่วนกุศลแก่องค์อมรินทราธิราชเจ้าและท่านอาจารย์จอน กรวดน้ำด้วยอิมินา (บทกรวดน้ำ) เอ่ยชื่อตนเอง อธิษฐานขอให้โรคต่างๆ หายไป
  • สรรพคุณที่กล่าวถึง: บรรเทาอาการปวดข้อปวดกระดูก, กระดูกร้าว, หัวใจโต, เบาหวาน, ความดันโลหิตสูงหรือต่ำ, อัมพาต, ริดสีดวงทวาร. ท่านที่ธาตุหนักหรือเบาสามารถลดหรือเพิ่มปริมาณได้ตามส่วน หรือรับประทานวันเว้นวัน จะทำให้ร่างกายแข็งแรง อายุยืน

 

ตำรับที่ 3: รากมะเขือ, รากขนุน, รากมะแว้ง, บอระเพ็ด, เจตมูลเพลิง, บุกรอ (ตำรายาสมุนไพรไทยพระครูวิทิตวรเวช (ส.เปลี่ยนศรี))

 

  • ส่วนประกอบ: รากมะเขือ 2 บาท, รากขนุน 8 บาท, รากมะแว้งเหนือ 8 บาท, รากมะแว้งต้น 8 บาท, บอระเพ็ด 4 บาท, เจตมูลเพลิง 80 บาท, บุกรอ 8 บาท
  • วิธีปรุงยา: นำส่วนประกอบทั้งหมดมาบดให้เป็นผง ผสมกับน้ำอ้อยแดงหรือน้ำผึ้งที่ได้แล้วปิดผนึกไว้ให้ดี จากนั้นนำทองคำหนัก 1 บาท ผูกคอไหม (น่าจะหมายถึง ผูกติดกับขวดหรือภาชนะบรรจุยา) ฝังในข้าวเปลือกไว้ 3 เดือน
  • วิธีรับประทาน: กินวันละ 1 ช้อนหอย (ประมาณช้อนชา)
  • สรรพคุณที่กล่าวถึง: เป็นยาแก้โรคในร่างกายทั้งปวง, ผมที่หงอกจะกลับดำ, ยานี้กินได้ 6 เดือน สรรพคุณจะทำให้สัตว์พิษกัดไม่ตาย, อายุยืน, มีกำลังดังช้างสาร, เสียงเพราะ, รูปงาม, โรคภัยต่างๆ ไม่มีในร่างกาย

 

ตำรับที่ 4: ต้นเหงือกปลาหมอ, พริกไทยล่อน, หัวแห้วหมู (ตำรายากลางบ้าน)

 

  • ส่วนประกอบ: ต้นเหงือกปลาหมอ 3 ตำลึง, พริกไทยล่อน 1 ตำลึง (พริกไทยขาว), หัวแห้วหมู 1 ตำลึง
  • วิธีปรุงยา: นำส่วนประกอบทั้งหมดมาตากแดดให้แห้ง ตำเป็นผง ผสมกับน้ำผึ้ง แล้วปั้นเป็นลูกกลอน
  • วิธีรับประทาน: รับประทานหลังอาหารเย็นเป็นประจำทุกวัน
  • สรรพคุณที่กล่าวถึง: ทำให้ท้องเป็นปกติ, บำรุงเส้น, รักษาน้ำเหลือง, ทำให้นัยน์ตาแจ่มใส, ไม่เป็นฝี สรรพคุณสุดที่จะพรรณนา

 

ตำรับที่ 5: บอระเพ็ด, เกลือทะเล, น้ำผึ้ง (ตำรายากลางบ้าน)

 

  • ส่วนประกอบ: บอระเพ็ดหั่นตากแดดให้แห้ง 1 ส่วน, เกลือทะเล 1 ส่วน, น้ำผึ้ง 1 ส่วน
  • วิธีปรุงยา: นำบอระเพ็ดกับเกลือทะเลมาตำรวมกันให้ละเอียด ผสมกับน้ำผึ้ง แล้วปั้นเป็นลูกกลอนขนาดเท่าปลายนิ้วก้อย
  • วิธีรับประทาน: รับประทานเวลาก่อนอาหารวันละ 3 เวลา
  • สรรพคุณที่กล่าวถึง: ทำให้ร่างกายแข็งแรง, สุขภาพอนามัยดี, ไม่แก่เร็ว, มีลักษณะกระชุ่มกระชวยอยู่เสมอ

 

ตำรับที่ 6: เกลือทะเล, ข้าวสาร, พริกไทยล่อน (ตำรายากลางบ้าน)

 

  • ส่วนประกอบ: เกลือทะเล 1 ถ้วยชา, ข้าวสาร 1 ถ้วยชา, พริกไทยล่อน 1 ถ้วยชา (พริกไทยขาว)
  • วิธีปรุงยา: นำส่วนประกอบมาคั่วทีละสิ่ง จากนั้นตำรวมกันให้ละเอียด ผสมกับน้ำผึ้งแท้แล้วปั้นเป็นลูกกลอน
  • วิธีรับประทาน: รับประทานก่อนนอนทุกคืน
  • สรรพคุณที่กล่าวถึง: ทำให้สุขภาพอนามัยดี, มีอายุยืนยาว

 

ตำรับที่ 7: พริกไทยล่อน, หัวแห้วหมู, หัวกระชาย, บอระเพ็ด (ตำรายากลางบ้าน)

 

  • ส่วนประกอบ: พริกไทยล่อน 4 บาท (พริกไทยขาว), หัวแห้วหมู 4 บาท, หัวกระชาย 4 บาท, บอระเพ็ด 12 บาท
  • วิธีปรุงยา: นำส่วนประกอบทั้งหมดมาตำรวมกันให้เป็นผง ผสมกับน้ำผึ้งแท้
  • วิธีรับประทาน: รับประทานเป็นประจำทุกวัน
  • สรรพคุณที่กล่าวถึง: ทำให้ไม่มีโรคเบียดเบียน, มีอายุยืนนาน

 

ตำรับที่ 8: ต้นเหงือกปลาหมอ, พริกไทย (ตำรายาพิเศษจากเมืองพิษณุโลก)

 

  • ส่วนประกอบ: ต้นเหงือกปลาหมอ 2 ส่วน, พริกไทย 1 ส่วน
  • วิธีปรุงยา: นำส่วนประกอบทั้งหมดมาตำรวมกันให้เป็นผง ละลายกับน้ำผึ้ง
  • วิธีรับประทาน: กินทุกวัน
  • สรรพคุณที่กล่าวถึง:
    • กินได้ 1 เดือน: จะหมดโรคและมีสติปัญญา
    • กินได้ 2 เดือน: จะเป็นที่เมตตาแก่คนทั้งหลาย
    • กินได้ 3 เดือน: ริดสีดวง 14 จำพวกจะไม่มีเลย
    • กินได้ 4 เดือน: โรคลม 12 จำพวกจะไม่มีเลย, ตาแดงดังครุฑ, หูได้ยินดังราชสีห์
    • กินได้ 5 เดือน: โรคภายในจะไม่มีเลย
    • กินได้ 6 เดือน: จะเดินได้ถึงวันละพันโยชน์ ไม่มีเหน็ดเหนื่อย
    • กินได้ 7 เดือน: ผิวจะงาม, เลือดดี
    • กินได้ 8 เดือน: เสียงเหมือนนกการเวก
    • กินได้ 9 เดือน: คมหอก คมดาบแทงฟันไม่เข้าเลย

 

ตำรับที่ 9: แห้วหมู, บอระเพ็ด, เมล็ดช่อย, เปลือกทิ้งถ่อน, เปลือกตะโกนา, พริกไทยล่อน (ตำรับยาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์)

 

  • ส่วนประกอบ: แห้วหมู, บอระเพ็ด, เมล็ดช่อย, เปลือกทิ้งถ่อน, เปลือกตะโกนา, พริกไทยล่อน (พริกไทยขาว) (สิ่งละเท่าๆ กัน)
  • วิธีปรุงยา: นำส่วนประกอบทั้งหมดมาบดรวมกันให้เป็นผง ผสมกับน้ำผึ้ง แล้วปั้นเป็นลูกกลอนขนาดเท่าผลพุทรา
  • วิธีรับประทาน: รับประทานก่อนรับประทานอาหาร วันละ 2 เวลา (เช้า-เย็น) เป็นประจำ

 

ตำรับที่ 10: ยาดำ, เกลือ, ไพล, มะขามเปียก/ใบมะขามสด, สารส้ม (ตำรับยาของหลวงอินทรอาญา)

 

  • ส่วนประกอบ: ยาดำ 4 บาท, เกลือ 4 บาท, ไพล (สด) 4 บาท, มะขามเปียกหรือใบมะขามสด 4 บาท, สารส้ม 2 สลึง
  • วิธีปรุงยา: นำส่วนประกอบทั้งหมดมาตำรวมกันให้ละเอียด แล้วปั้นเป็นลูกกลอน
  • วิธีรับประทาน: รับประทานตามกำลังธาตุ เวลา ก่อนนอนหรือเวลาเช้าหลังตื่นนอนก็ได้
  • สรรพคุณที่กล่าวถึง: เป็นยาระบาย, แก้เส้น, ถ่ายลม, แก้ปวดเมื่อยขบ ยอก, แก้อ่อนเพลียหาแรงมิได้, แก้กษัย, บำรุงธาตุ, เจริญอาหาร และเป็นยาอายุวัฒนะ

คำแนะนำที่สำคัญ:

ตำรับยาอายุวัฒนะเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยโบราณที่สืบทอดกันมา อย่างไรก็ตาม การรับประทานสมุนไพรเพื่อหวังผลด้านอายุวัฒนะหรือรักษาโรคที่ซับซ้อน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านแพทย์แผนไทย หรือแพทย์แผนปัจจุบัน เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและเหมาะสมกับสภาพร่างกายของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีโรคประจำตัว หรือกำลังรับประทานยาแผนปัจจุบันอยู่