สมุนไพรล้างพิษ ราชพฤกษ์หรือคูน
ราชพฤกษ์: ดอกไม้ประจำชาติไทยที่มากด้วยสรรพคุณ
สมุนไพรล้างพิษ ราชพฤกษ์ หรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อ คูน เป็นดอกไม้ประจำชาติไทยที่โดดเด่นด้วยดอกสีเหลืองอร่าม พบเห็นได้ทั่วไปตามริมถนนหนทางต่างๆ นอกจากความสวยงามแล้ว คนโบราณยังเชื่อว่าการปลูกต้นราชพฤกษ์จะช่วยส่งเสริมชื่อเสียงเกียรติยศแก่ผู้ปลูกอีกด้วย
สรรพคุณทางยาของราชพฤกษ์
ราชพฤกษ์ไม่ได้มีดีแค่ความสวยงามและความเชื่อเท่านั้น แต่ยังอุดมไปด้วยสรรพคุณทางยามากมายที่น่าสนใจ:
- ฝักแก่: มีรสหวาน สามารถนำมาเป็นยาระบายได้ โดยการนำฝักไปต้มกับน้ำจนเดือด เติมเกลือป่นเล็กน้อย แล้วรินน้ำดื่มก่อนนอนหรือก่อนรับประทานอาหาร นอกจากนี้ สารในฝักแก่ยังมีฤทธิ์ต่อระบบประสาทของแมลงศัตรูพืช สามารถนำฝักมาบดผสมน้ำ แช่ทิ้งไว้ 2-3 วัน กรองน้ำแล้วนำไปฉีดพ่นในแปลงผักเพื่อกำจัดศัตรูพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื้อของฝักแก่ยังใช้แทนกากน้ำตาลในการทำหัวเชื้อจุลินทรีย์ได้อีกด้วย
- ฝักอ่อน: มีรสหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย แม้จะมีกลิ่นเหม็นเอียน แต่ช่วยขับเสมหะได้เป็นอย่างดี
- ดอก: มีส่วนช่วยในการรักษาโรคที่เกี่ยวกับกระเพาะอาหาร
- ใบ: ใบอ่อนสามารถนำมาต้มกับน้ำดื่มเพื่อแก้ไข้รูมาติก และยังมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรค
วิธีการล้างพิษด้วยยอดราชพฤกษ์
การล้างพิษด้วยยอดราชพฤกษ์เป็นภูมิปัญญาที่น่าสนใจ แต่ควรปฏิบัติด้วยความระมัดระวัง:
- การเตรียมยอด: เด็ดยอดราชพฤกษ์อ่อนคล้ายกับการเด็ดยอดกระถิน ประมาณ 7 ยอด นำมาล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย
- การต้มและรับประทาน: นำยอดที่ได้มาต้มให้สุก แล้วรับประทาน หากเป็นคนธาตุเบา ควรใช้เพียง 5 ยอดก็เพียงพอ สามารถรับประทานเปล่าๆ หรือจะจิ้มกับน้ำพริกก็ได้
- ดื่มน้ำตาม: หลังจากรับประทานยอดราชพฤกษ์แล้ว ควรดื่มน้ำเปล่าตามมากๆ
การรับประทานยอดราชพฤกษ์ต้มไม่เพียงแต่ช่วยล้างพิษ แต่ยังเป็นยาระบายและช่วยแก้ปวดเมื่อยได้อีกด้วย
ข้อควรระวังในการใช้
การล้างพิษด้วยยอดราชพฤกษ์ต้มเป็นการล้างลำไส้ด้วยการขับถ่าย ดังนั้นจึงมีข้อควรระวังดังนี้:
- อาการถ่ายอย่างแรง: การรับประทานมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการถ่ายอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่มีธาตุเบา ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ
- การเตรียมพร้อม: หลังจากการรับประทาน ควรเตรียมพร้อมสำหรับการขับถ่ายที่อาจเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
การล้างพิษด้วยราชพฤกษ์เป็นวิธีธรรมชาติที่มีประโยชน์ แต่ควรศึกษาข้อมูลและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด หากมีข้อสงสัยหรือมีโรคประจำตัว ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนการนำไปใช้เสมอ
