Table of Contents
Toggleตำรับยาบำบัดโรคริดสีดวง (ชักดาก) และอาการในระบบขับถ่าย: ภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย
ตำรับยาบำบัดโรคริดสีดวง (ชักดาก) อาการริดสีดวงทวารหนัก หรือที่เรียกว่า “ชักดาก” คือภาวะที่ปลายลำไส้ใหญ่ปลิ้นออกมาบริเวณทวารหนัก ซึ่งสร้างความเจ็บปวดและไม่สบายตัวอย่างมาก นอกจากนี้ ตำรับยายังกล่าวถึงการช่วยสมานแผลและแก้อาการถ่ายเป็นมูกเลือดในเด็ก ซึ่งเป็นปัญหาที่พบบ่อยในระบบขับถ่าย ตำราแพทย์แผนไทยโบราณได้บันทึกวิธีการบำบัดด้วยสมุนไพรธรรมชาติที่เชื่อว่าช่วยบรรเทาและฟื้นฟูอาการเหล่านี้ได้
1. ตำรับยาต้มรวมเพื่อรักษาอาการชักดาก (จากยาแผนโบราณจากบรรพบุรุษ)
ตำรับนี้ใช้สมุนไพรหลายชนิดมาต้มรวมกันเพื่อดื่มบำรุงและรักษาอาการที่เกี่ยวข้องกับลำไส้ใหญ่
- ส่วนประกอบ:
- บอระเพ็ด
- ขมิ้นอ้อย
- ชันย้อย
- ไพล
- กะทือ
- กะเพรา
- ใบเทียน
- ใบทับทิม
- ใบกระพังโหม
- (ส่วนผสมทั้งหมดปริมาณเท่ากัน)
- วิธีปรุงยา:
- นำเครื่องยาทั้งหมดใส่ลงในหม้อดิน ต้มกับน้ำพอประมาณ
- กรองเอาแต่น้ำยาสำหรับดื่ม
- สรรพคุณ: ช่วยให้ปลายลำไส้ใหญ่ (ดาก) ที่ปลิ้นออกมาบริเวณทวารหนักกลับคืนเข้าที่เดิม ช่วยสมานแผล และแก้อาการถ่ายเป็นมูกเลือดในเด็ก
2. ตำรับยาต้มจากต้นน้ำนมราชสีห์และสมุนไพรอื่น ๆ (จากตำรายาหลวงปู่สุข)
ตำรับนี้ใช้สมุนไพรในสัดส่วนที่แตกต่างกันเล็กน้อย เน้นการต้มดื่มเพื่อรักษาอาการ
- ส่วนประกอบ:
- ต้นน้ำนมราชสีห์ 8 บาท
- ใบเสนียด 4 บาท
- หัวกะทือ 1 บาท
- หัวไพล 1 บาท
- เทียนดำ 1 บาท
- ขมิ้นอ้อย 1 บาท
- เถาบอระเพ็ด 2 สลึง
- วิธีปรุงยา:
- นำเครื่องยาทั้งหมดใส่ลงในหม้อดิน ต้มกับน้ำพอประมาณ
- กรองเอาแต่น้ำยาสำหรับดื่ม
- วิธีรับประทาน:
- ดื่มวันละ 2 เวลา (เช้าและเย็น) ครั้งละ 1 ถ้วยชา
3. ตำรับยาแท่งละลายเหล้าครึ่งน้ำครึ่ง (จากตำรับยาของหลวงอินทรอาญา)
ตำรับนี้เป็นยาที่เตรียมในรูปแท่ง และนำมาละลายกับเหล้าและน้ำปูนใสก่อนดื่ม
- ส่วนประกอบ:
- ลูกจันทน์
- ดอกจันทน์
- เบญกานี
- รากมะฝ่อ
- เปลือกสันพร้านางแอ
- (ส่วนผสมทั้งหมดปริมาณเท่ากัน)
- วิธีปรุงยา:
- นำเครื่องยาทั้งหมดมาบดรวมกัน
- ทำเป็นแท่งสำหรับเก็บรักษา
- วิธีรับประทาน:
- เมื่อต้องการรับประทาน ให้นำแท่งยามาละลายกับเหล้าครึ่งหนึ่งและน้ำครึ่งหนึ่ง
- เติมน้ำปูนใสเล็กน้อย
- ดื่มวันละ 2 เวลา (เช้าและเย็น) ติดต่อกันเป็นเวลา 9 วัน
ข้อควรพิจารณาและคำแนะนำที่สำคัญ:
อาการริดสีดวงทวารหนัก หรือ “ชักดาก” และอาการถ่ายเป็นมูกเลือดในเด็ก อาจมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย และบางกรณีอาจต้องการการรักษาทางการแพทย์แผนปัจจุบันเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น การติดเชื้อ หรือการสูญเสียเลือด
ตำรับยาแผนโบราณเหล่านี้เป็นภูมิปัญญาที่มีคุณค่า แต่การนำไปใช้ควรทำด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของเด็กเล็ก หรือเมื่อมีอาการรุนแรง เช่น ปวดมาก มีเลือดออกมาก หรือมีไข้
ขอแนะนำอย่างยิ่งว่า หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีอาการดังกล่าว ควรรีบปรึกษาแพทย์แผนปัจจุบัน เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสมที่สุดโดยเร็วที่สุด การใช้ยาสมุนไพรหรือตำรับยาแผนไทยควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์แผนไทยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและประสิทธิภาพ และเพื่อป้องกันผลข้างเคียงหรือปฏิกิริยากับยาอื่นๆ ครับ