Table of Contents
Toggleยารักษาอาการปวดหลัง ปวดเอว
ตำรับยารักษาอาการปวดหลัง ปวดเอว: ภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย
ยารักษาอาการปวดหลัง ปวดเอว อาการปวดหลังและปวดเอวเป็นปัญหาที่พบบ่อย ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การใช้งานกล้ามเนื้อมากเกินไป การบาดเจ็บ การอักเสบ หรือภาวะเสื่อมของกระดูกและข้อต่อ ในตำราแพทย์แผนไทยโบราณได้บันทึกตำรับยาที่ใช้สมุนไพรธรรมชาติเพื่อช่วยบรรเทาอาการปวด ลดการอักเสบ และบำรุงกำลัง
1. ตำรับยาตำพอกหรือผสมน้ำผึ้งจากต้นบัวบกและชะเอม (จากตำรายาหลวงปู่สุข)
ตำรับนี้ใช้สมุนไพรที่มีสรรพคุณลดการอักเสบและช่วยให้ผ่อนคลาย
- ส่วนประกอบ:
- ต้นบัวบก (ปริมาณพอสมควร)
- ชะเอม (ปริมาณพอสมควร)
- วิธีปรุงยา:
- นำเครื่องยาทั้งหมดปริมาณพอสมควรมาตำรวมกันให้ละเอียด
- วิธีรับประทาน:
- เมื่อจะรับประทาน ให้ผสมกับน้ำผึ้งแท้
- รับประทานวันละ 2 เวลา (เช้าและเย็น) ครั้งละ 1 ถ้วยชา
2. ตำรับยาต้มจากกาฝากไม้จามจุรี (จากตำรายาหลวงปู่สุข)
ตำรับนี้ใช้ส่วนประกอบจากกาฝากและฝักของต้นจามจุรี
- ส่วนประกอบ:
- ต้นกาฝากไม้จามจุรี 1 ส่วน
- ฝักไม้จามจุรีแห้ง 1 ส่วน
- วิธีปรุงยา:
- นำเครื่องยาทั้งหมดมาย่างไฟให้แห้ง
- จากนั้นนำเครื่องยาใส่ลงในหม้อดิน ต้มกับน้ำพอสมควร
- กรองเอาแต่น้ำยาสำหรับดื่ม
- วิธีรับประทาน:
- ดื่มครั้งละ 1 ถ้วยชา
3. ตำรับยาคั้นจากต้นกะเม็งผสมน้ำผึ้ง (จากตำรายาหลวงปู่สุข)
ตำรับนี้ใช้ต้นกะเม็ง ซึ่งเชื่อว่ามีสรรพคุณทางยาหลายอย่าง และมีข้อกำหนดในการรับประทานตามวันจันทรคติ
- ส่วนประกอบ:
- ต้นกะเม็งทั้งห้า (เอาทั้งต้นตลอดถึงราก)
- น้ำผึ้งแท้
- วิธีปรุงยา:
- นำต้นกะเม็งมาล้างน้ำให้สะอาด ตำให้แหลก
- คั้นเอาแต่น้ำให้ได้ครึ่งแก้วกาแฟ
- ผสมกับน้ำผึ้งแท้ครึ่งแก้วกาแฟ และกวนให้เข้ากัน
- วิธีรับประทาน:
- รับประทานเวลาก่อนนอนในคืนวันเดือนดับ (วันสิ้นเดือนทางจันทรคติคือ วันแรม 14-15 ค่ำ)
- รับประทานเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
4. ตำรับยาต้มจากต้นหญ้าลูกใต้ใบ (จากจารึกตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร)
ตำรับที่เรียบง่ายนี้ใช้ต้นหญ้าลูกใต้ใบ ซึ่งเป็นสมุนไพรที่รู้จักกันดี
- ส่วนประกอบ:
- ต้นหญ้าลูกใต้ใบ (เอาทั้งต้นตลอดถึงราก)
- วิธีปรุงยา:
- นำต้นหญ้าลูกใต้ใบมาล้างน้ำให้สะอาด
- สับเป็นชิ้นๆ แล้วตากแดดให้แห้ง
- วิธีรับประทาน:
- เมื่อจะรับประทาน ให้ใส่ลงหม้อดินต้ม
- กรองเอาแต่น้ำยาสำหรับดื่มต่างน้ำชา
ข้อควรพิจารณาและคำแนะนำที่สำคัญ:
อาการปวดหลังและปวดเอวอาจเกิดจากหลายสาเหตุ ตั้งแต่กล้ามเนื้ออักเสบ หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท กระดูกสันหลังเสื่อม หรือแม้แต่ปัญหาจากอวัยวะภายในบางชนิด การวินิจฉัยสาเหตุที่แท้จริงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้ได้รับการรักษาที่เหมาะสม
ตำรับยาแผนโบราณเหล่านี้เป็นภูมิปัญญาที่มีคุณค่า แต่การนำไปใช้ควรทำด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง โดยเฉพาะตำรับที่มีข้อกำหนดเรื่องวันเวลาในการรับประทาน หรือการเตรียมที่ซับซ้อน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านแพทย์แผนไทย
ขอแนะนำอย่างยิ่งว่า หากคุณมีอาการปวดหลัง ปวดเอวเรื้อรัง ปวดรุนแรง หรือมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น อาการชา อ่อนแรง ควรรีบไปพบแพทย์แผนปัจจุบันเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสมที่สุด การใช้ยาสมุนไพรหรือตำรับยาแผนไทยควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์แผนไทยผู้เชี่ยวชาญควบคู่ไปกับการรักษาแผนปัจจุบัน เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและประสิทธิภาพ และเพื่อป้องกันผลข้างเคียงหรือปฏิกิริยากับยาอื่นๆ ครับ