ยารักษาอาการไอ

ยารักษาอาการไอ  การแพทย์แผนโบราณของไทยมีภูมิปัญญาและตำรับยามากมายที่ใช้ในการรักษาและบรรเทาอาการไอ ซึ่งมักพิจารณาจากลักษณะของอาการไอ (ไอแห้ง ไอมีเสมหะ ไอเรื้อรัง) และสาเหตุที่สัมพันธ์กับธาตุในร่างกาย

แนวคิดการรักษาอาการไอในแผนไทย:

ในแพทย์แผนไทย อาการไอ มักเกี่ยวข้องกับ:

  • ธาตุน้ำกำเริบ: ทำให้มีเสมหะมาก ไอมีเสมหะ มักเกิดจากความเย็นเข้าสู่ร่างกาย
  • ธาตุลมกำเริบ: ทำให้ไอแห้ง ไอมีเสียง หรือไอติดขัด เกิดจากลมเดินไม่สะดวก
  • ธาตุไฟกำเริบ: ทำให้ไอมีอาการเจ็บคอ แสบคอ ไอแห้ง มีไข้ร่วมด้วย
  • ภาวะธาตุหย่อน: ร่างกายอ่อนแอ ภูมิคุ้มกันต่ำ ทำให้ไอเรื้อรัง

สมุนไพรเดี่ยวและตำรับยาที่นิยมใช้บรรเทาอาการไอ:

  1. มะแว้ง (Solanum trilobatum / Solanum indicum):

    • สรรพคุณ: มีรสขม ช่วยขับเสมหะ แก้ไอ ลดการอักเสบ มักใช้แก้ไอมีเสมหะ
    • วิธีใช้:
      • มะแว้งเครือ: ใช้ผลสดโขลกคั้นเอาน้ำจิบ หรือเคี้ยวผลสด
      • มะแว้งต้น: ใช้ผลสดโขลกคั้นเอาน้ำจิบเช่นกัน
      • ปัจจุบันมีในรูปแบบยาเม็ดอม หรือยาน้ำแก้ไอมะแว้ง
  2. มะขามป้อม (Phyllanthus emblica):

    • สรรพคุณ: มีรสเปรี้ยวอมฝาด อุดมด้วยวิตามินซีสูง ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน แก้ไอ ขับเสมหะ บรรเทาอาการเจ็บคอ
    • วิธีใช้:
      • ใช้ผลสดเคี้ยว หรือจิ้มเกลือรับประทาน
      • นำมาคั้นน้ำจิบ หรือต้มน้ำดื่ม
      • มีในรูปแบบยาอม หรือยาน้ำแก้ไอสำเร็จรูป
  3. มะนาว (Citrus aurantifolia):

    • สรรพคุณ: รสเปรี้ยว อุดมด้วยวิตามินซี ช่วยละลายเสมหะ บรรเทาอาการไอและเจ็บคอ
    • วิธีใช้: บีบน้ำมะนาวผสมน้ำผึ้งและเกลือเล็กน้อย จิบเมื่อมีอาการไอ
  4. ขิง (Zingiber officinale):

    • สรรพคุณ: รสเผ็ดร้อน ช่วยขับลม แก้คลื่นไส้ ขับเสมหะ ทำให้ชุ่มคอ บรรเทาอาการไอแห้งและไอมีเสมหะ
    • วิธีใช้: นำขิงสดมาทุบให้พอแตก ต้มกับน้ำดื่มเป็นน้ำขิงอุ่นๆ หรือชงกับน้ำร้อนดื่ม
  5. ฟ้าทะลายโจร (Andrographis paniculata):

    • สรรพคุณ: รสขมจัดและมีฤทธิ์เย็น ช่วยลดไข้ ต้านการอักเสบ บรรเทาอาการเจ็บคอ และไอจากหวัด
    • วิธีใช้: รับประทานในรูปแคปซูล หรือต้มดื่ม ตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ (ไม่ควรใช้ติดต่อกันนานเกินไป)
  6. เพกา (Oroxylum indicum):

    • สรรพคุณ: เปลือกต้นมีรสขมฝาดเย็น มีฤทธิ์แก้ไอ ขับเสมหะ บำรุงธาตุ นิยมใช้แก้ไอเรื้อรัง
    • วิธีใช้: นำเปลือกต้นมาต้มน้ำดื่ม หรือเป็นส่วนผสมในตำรับยาแก้ไอ
  7. ดีปลี (Piper retrofractum):

    • สรรพคุณ: รสเผ็ดร้อน ช่วยแก้ไอ ขับเสมหะ แก้หอบหืด
    • วิธีใช้: มักใช้เป็นส่วนผสมในตำรับยาแก้ไอ หรือใช้ดีปลีบดผสมน้ำผึ้งปั้นเป็นลูกกลอนเล็กๆ อม
  8. ชะเอมเทศ (Glycyrrhiza glabra):

    • สรรพคุณ: รสหวานชุ่มคอ ช่วยละลายเสมหะ แก้ไอ ทำให้ชุ่มคอ ลดการระคายเคือง
    • วิธีใช้: ใช้ชะเอมเทศเป็นส่วนผสมในยาอม หรือนำมาต้มน้ำดื่ม

ตำรับยาแก้ไอแผนโบราณที่นิยม:

  • ยาอมแก้ไอสมุนไพร: ส่วนใหญ่มักมีส่วนผสมของมะแว้ง มะขามป้อม ชะเอมเทศ หรือสมุนไพรอื่นๆ เพื่อให้ชุ่มคอ บรรเทาอาการไอ
  • ยาน้ำแก้ไอแผนโบราณ: มักมีส่วนผสมของมะแว้ง มะขามป้อม เพกา หรือสมุนไพรอื่นๆ ที่มีสรรพคุณแก้ไอ ขับเสมหะ

วิธีการอื่นๆ ในการบรรเทาอาการไอแบบแผนโบราณ:

  • จิบน้ำอุ่นบ่อยๆ: ช่วยให้คอชุ่มชื้น ลดการระคายเคืองและช่วยละลายเสมหะ
  • การกลั้วคอด้วยน้ำเกลือ: ช่วยลดการอักเสบและฆ่าเชื้อในลำคอ
  • รับประทานอาหารอ่อนๆ และมีประโยชน์: เลี่ยงอาหารรสจัด ของทอด ของมัน ที่อาจกระตุ้นอาการไอ

ข้อควรระวังที่สำคัญ:

  • การไออาจเป็นสัญญาณของโรค: อาการไออาจเกิดจากหลายสาเหตุ ตั้งแต่หวัดธรรมดาไปจนถึงโรคที่ร้ายแรงกว่า เช่น หลอดลมอักเสบ, ปอดอักเสบ, วัณโรค หรือโรคกรดไหลย้อน หากไอเรื้อรัง ไอมีเลือดปน ไอมีไข้สูง หอบเหนื่อย หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ ร่วมด้วย ควรรีบไปพบแพทย์แผนปัจจุบันเพื่อวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง
  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: การใช้สมุนไพรควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์แผนไทย หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร เพื่อให้แน่ใจว่าเหมาะสมกับอาการและสภาพร่างกายของคุณ และไม่มีข้อห้ามใช้กับยาอื่นที่คุณกำลังรับประทานอยู่
  • สมุนไพรบางชนิดมีข้อจำกัด: เช่น ฟ้าทะลายโจร ไม่ควรรับประทานต่อเนื่องนานเกินไป และมีข้อควรระวังในผู้ป่วยบางกลุ่ม

การแพทย์แผนโบราณสามารถเป็นทางเลือกหนึ่งในการบรรเทาอาการไอเบื้องต้น แต่สิ่งสำคัญคือการสังเกตอาการและปรึกษาแพทย์เมื่ออาการไม่ดีขึ้น หรือมีอาการรุนแรงครับ

ยารักษาอาการไอ

ตำรับยาขนานที่ ๑

เกลือทะเล / ใบพลู (ใบพลูกินกับหมาก)

วิธีปรุงยา

ล้างใบพลูให้สะอาด นําใบพลูใส่ ปากเคี้ยวพร้อมกับเกลือทะเล แล้วอมไว้ กลิ่นน้ํายาลงลําคอบ้าง ๒-๓ครั้ง

(ตํารายาหลวงปู่ศุข)

 

ตํารับยาขนานที่ ๒

น้ําผึ้งแท้ / นามะนาว

วิธีปรุงยา

ผสมน้ํามะนาวกับน้ําผึ้งแท้เข้าด้วยกัน แล้วนำมาดื่มให้หมดในครั้งเดียว (ตํารายาหลวงปู่ศุข)

 

ตํารับยาขนานที่ ๓

แง่งขิง / หัวหอม / เกลือทะเล / น้ําผึ้งแท้

วิธีปรุงยา

นําแง่งขิง หัวหอม และเกลือทะเลอย่างละพอสมควรมาตําเข้าด้วยกัน

ให้ละเอียด

วิธีรับประทาน

เมื่อจะรับประทานให้นํามาผสมกับ น้ําผึ้งแท้รับประทาน

(ตํารายาหลวงปู่ศุข)

 

ตํารับยาขนานที่ ๔

หัวข่า / ผลมะนาว / น้ําตาลทรายขาว / หรือน้ําตาลทรายแดง

วิธีปรุงยา

ใช้หัวข่า ผลมะนาว และน้ําตาลทราย อย่างละพอสมควร โดยนํา หัวข่ามาทุบพอๆ แล้วฝานเป็นชิ้นบางๆ

บีบน้ํามะนาวและเติมน้ําตาลทรายลงผสม ใช้อมไว้ และค่อยๆ เคี้ยวกลืนลงสู่ลําคอบ้าง

(ตํารายาหลวงปู่ศุข)

 

ตํารับยาขนานที่ ๕

สัมมะขามเปียก / น้ำผึ้ง

วิธีปรุงยา

นําส้มมะขามเปียกและน้ําผึ้งมา วิธีปรุงยาผสม และกวนจนกระทั่งเข้ากันดี แล้วรับประทานทั้งส้มมะขามเปียกและ คั้นเอาแต่น้ํา ผสมกับน้ําผึ้งแล้วกวนนําผลมะเกลือทั้งหมดมาตําแล้วน้ําผึ้ง

(ตํารายาหลวงปู่ศุข)

 

ตํารับยาขนานที่ ๖

ขมิ้นอ้อย / กระเทียม / พริกไทย ดีปลี ใบปีบ

วิธีปรุงยา

นําเครื่องยาทั้งหมดอย่างละพอสมควร มาตํารวมกันให้ละเอียด แล้ว ปั้นเป็นแท่งเก็บไว้

[How to use]

เมื่อจะใช้ให้นําแท่งยาละลายกับน้าผึ้ง กวาดคอเป็นยาแก้ไอ

(ตํารายาของหลวงอินทรอาญา)

 

ตํารับยาขนานที่ ๗

ผลมะเกลือ / จํานวนเท่าอายุคนป่วย

วิธีปรุงยา

นำผลมะเกลือทั้งหมดมาตำแล้วคั้นเอาแต่น้ำ ผสมกับน้ำผึ้งแล้วกวนให้เข้ากัน ใช้จิบเลาไอ

(ตํารายาของหลวงอินทรอาญา)